หมายเหตุ: รีวิวนี้อ้างอิงจากการใช้งานบนเครื่องเล่นเกม Nintendo Switch และ PlayStation 5
ย้อนกลับไปในยุค Nintendo DS รุ่งเรือง เกมเมอร์หลายคนย่อมเคยได้ยินเสียงตะโกน Objection! กันมาแล้วเพราะซีรีส์เกมทนายชุดนี้ได้มีการประยุกต์ไมโครโฟนเข้ามาใช้งานเวลาเราเล่นเกมด้วย แต่ถ้าพูดถึงซีรีส์นี้ก็ต้องนึกถึงการพลิกแพลงหลายตลบของคดีชวนปวดหัวที่ Phoenix Wright และ Apollo Justice สองทนายแสบต้องเจอในศาล
วันนี้เองเกมภาคหาเล่นยากก็ได้ถูกรวบรวมสู่ไตรภาคชุดใหม่อย่าง Apollo Justice: Ace Attorney Trilogy แล้ว และ ThisIsGame Thailand ก็ได้รับโอกาสจาก CAPCOM ในการรีวิวเกมเพื่อนำความประทับใจมาฝากเช่นเคย แต่จะเป็นอย่างไรบ้างก็อย่ารอช้า ติดตามได้ข้างล่างนี้ครับผม
ปรับปรุงให้ทันสมัย เล่นได้ง่ายกว่าเดิม
คงไม่ต้องพูดถึงเนื้อเรื่องกันให้มากความเพราะทั้งสามเกมก็ล้วนเป็นเกมขึ้นหิ้งของซีรีส์แล้วด้วยความพีคที่ทวีคูณขึ้นทุกภาค แต่จุดเด่นก็คือระบบ QoL ที่ช่วยให้ผู้เล่นทุกคนสามารถสนุกกับเกมได้ง่ายขึ้น โดยทุกเกมจะปลดล็อกเนื้อหาให้เราเรียบร้อยครบทุกเคสดังนั้นก็สามารถเริ่มเล่นเคสที่ตัวเองอยากเล่นได้เลย (แต่แน่นอนว่าใครไม่เคยเล่นควรเริ่มไปตามเนื้อเรื่องนะ) เท่านั้นไม่พอยังเลือกได้ด้วยว่าจะข้ามไปที่ซีนไหน อยากขึ้นศาลเลยหรือหาเบาะแสก่อนก็ได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีฟังก์ชัน Auto-play ที่เกมจะเฉลยเรื่องราวให้ทั้งหมดด้วย จุดนี้รู้สึกว่าไม่ต้องเพิ่มมาก็ได้ แต่มองอีกมุมหลายคนอาจจะอยากแค่นั่งอ่านเพลินๆ เหลือยังดีกว่าขาดใช่ไหมครับ
อัปเกรดงานภาพและประสบการณ์ใหม่ให้ดียิ่งขึ้น
ความแตกต่างของไตรภาคชุดนี้คือทั้งสามเกมเป็นเกมที่มีต้นกำเนิดมาจากเครื่องเล่นเครือ DS – 3DS ที่อาศัยการบังคับด้วยหน้าจอสัมผัสและการแสดงผลผ่านหน้าจอสองจอ ดังนั้นการดัดแปลงใหม่เพื่อให้เป็นเกมคอนโซลที่สามารถเล่นผ่านหน้าจอโทรทัศน์ได้จึงเป็นสิ่งที่ท้าทายมากเพราะต้องอาศัยสองจุดหลักๆ ในการเปลี่ยนแปลงคือ ระบบควบคุมและความละเอียดภาพ ซึ่งเกมเปลี่ยนมาเป็นรูปแบบปุ่มได้ค่อนข้างง่ายด้วยความที่เป็นแนว Visual Novel อยู่แล้ว และสังเกตได้ว่าในส่วนปริศนาที่อาศัยการควบคุมด้วยจอสัมผัสเมื่อก่อนได้ใช้คำสั่งเป็นเคอร์เซอร์หรือกรอบไฮไลต์แทน สะดวกดีในระดับหนึ่งเลยครับคำพูดจาก 9 เว็บ สล็อตเว็บตรง
ปัจจัยถัดมาที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ก็คืองานภาพ โดยเกมทั้งสามรองรับความละเอียดสูงสุดในเวอร์ชันต้นฉบับที่ราว 240p เท่านั้น และยิ่ง Apollo Justice ที่เป็นเกมของ Nintendo DS ยิ่งแล้วใหญ่เพราะว่าใช้เทคโนโลยีภาพสองมิติแบบสไปรต์ ดังนั้นจึงเป็นงานหนักของทีมพัฒนาเลยครับ โดยพบว่าภาพที่วาดขึ้นมาใหม่สำหรับเกมภาคนี้เพื่อใช้งานถือว่างานเนี้ยบมาก เพราะจากเดิมที่เคยเป็นพิกเซลอาร์ตได้กลายเป็นภาพเวคเตอร์คมๆ และลงสี เงา รายละเอียดต่างๆ โดยที่ไม่ทิ้งเอกลักษณ์เดิมของตัวละคร ส่วนอีกสองภาคที่เหลือเป็นเทคโนโลยีสามมิติดังนั้นจึงไม่น่าเป็นเรื่องยากมากนัก แต่โดยรวมเห็นว่าโมเดลที่เปลี่ยนมาใช้มีคุณภาพระดับสูง ดูไม่ขัดเขิน
คอนเทนต์อัดแน่นครบทุกตอน
เนื้อหาของเกมทั้งหมดได้ถูกใส่มาครบถ้วนแบบไม่ขาดตกบกพร่อง ซึ่ง Apollo Justice ก็เป็นเกมภาคหลักเต็มๆ ขณะที่ภาค Dual Destinies และ Spirit of Justice ก็มีการใส่คอนเทนต์ DLC เข้ามาด้วย ดังนั้นจึงมีเคสให้เล่นกันยาวๆ รวมแล้ว 16 คดี (เนื้อหาของ Apollo 4 ตอน และอีก 2 ภาคมีภาคละ 6 ตอน) ตกคดีนึงราว 4 ชั่วโมง เล่นกันเพลินแน่นอนครับ อย่างไรก็ตามแอบรู้สึกเสียดายเกมภาค Professor Layton vs. Phoenix Wright: Ace Attorney ที่ยังคงตกค้างบนเครื่องเล่น 3DS อยู่ แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเพราะเป็นเกมครอสโอเวอร์ที่ต้องมีเงื่อนไขด้านลิขสิทธิ์
ของแถมและแฟนเซอร์วิส
นอกจากนี้ในไตรภาคใหม่ยังมาพร้อมกับของแถมที่จัดเต็มมากกว่าชุดแรกด้วย โดยจะมีส่วนของ Gallery ให้ผู้เล่นได้พบกับอาร์ตเวิร์กสุดหายากจำนวนมากรวบรวมไว้ในโหมดเดียว พร้อมด้วยเพลงประกอบจากคอนเสิร์ตออร์เคสตร้าที่เพิ่งแสดงไปเมื่อไม่นานมานี้ รวมไปถึงโหมดเปลี่ยนสกินด้วย โดยสกินก็จะใช้ได้สำหรับเกมสองภาค Dual Destinies และ Spirit of Justice เพราะเป็นโมเดลสามมิตินั่นเอง แต่ขอบอกว่ามีชุดนึงที่แอบทำให้นึกถึงเกมภาคเก่าๆ ด้วยนะ
ไฮไลต์เด็ดที่ไม่พูดถึงไม่ได้เห็นทีจะเป็น Animation Studio ที่รวบรวมโมเดลตัวละครและฉากหลังต่างๆ มาให้เราสามารถจัดท่าทางและทำมีมได้! หากใครติดตามซีรีส์นี้อยู่แล้วจะพบว่ามักมีมีมตลกๆ ที่คนชอบนำมาจำลองสถานการณ์แปลกๆ กัน (ด้วยธรรมชาติของเกม Visual Novel) และคราวนี้ตัวละครทุกคนจะมีอนิเมชันที่ปรับแต่งได้อิสระ จะทำหน้าเหวอ จับใส่คุก ให้ใครมายืนเป็นทนายก็ตามใจเลย เสียนิดนึงไม่สามารถทำไดอะล็อกได้ ดังนั้นเลยมีแค่ท่าทางเฉยๆ และท้ายที่สุดก็มีอนิเมะสั้นๆ ที่เคยฉายเพื่อโปรโมตเกมภาค Spirit of Justice ให้ชมแบบรีมาสเตอร์ครับ
บทสรุป
เกมชุดไตรภาคใหม่ของ Ace Attorney รอบนี้ถือว่าอยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยมทีเดียวเพราะถ้าว่ากันตามตรงทั้งสามเกมนี้ก็ไม่สามารถหาเล่นได้ง่ายๆ บนแพลตฟอร์มทั่วไปในตอนนี้แล้ว ที่สำคัญยังมาพร้อมกับเนื้อหาเสริมครบชุดในส่วนของเกมจากรุ่น Nintendo 3DS ด้วย ดังนั้นหากใครที่ชื่นชอบเกมมาตั้งแต่ไตรภาครีมาสเตอร์รอบแรกเมื่อหลายปีก่อน ก็ต้องบอกเลยว่าภาคนี้ยิ่งไม่ควรพลาดเพราะล้วนเป็นเกมที่มีการก้าวกระโดดจากเรื่องราวยุคเริ่มต้นของ Phoenix Wright ชัดเจน
ต้องบอกเลยว่าเต็มอิ่มทีเดียวกับการกลับมาของแก๊งทนายตัวแสบซึ่งหลายคนก็คงคิดถึงไม่น้อยเพราะถ้าว่ากันตามตรงก็เป็นเวลาเกือบ 10 ปีเข้าไปแล้วที่ซีรีส์นี้ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ นอกจากการรวมชุดภาครีมาสเตอร์และการปรากฏตัวในฐานะแขกรับเชิญ ดังนั้น Apollo Justice: Ace Attorney Trilogy จึงกลายเป็นเพื่อนใจให้เราได้ย้อนอดีตมาเล่นกันเพลินๆ ก่อนที่จะมีเกมภาคใหม่ในอนาคต หากใครสนใจก็สามารถหาซื้อได้ทั้งบนอุปกรณ์คอนโซลเครือ PlayStation, Xbox, Nintendo Switch และ PC ส่วนโอกาสหน้าพวกเราจะมีอะไรมาแบ่งปันอีกขอเชิญติดตามที่นี่เช่นเคยครับผม
Apollo Justice Apollo Justice: Ace Attorney Trilogy Capcom